สรุป เมษายน 2021

เดือนเมษายน…. ผมรู้สึกว่าเป็นเดือนที่โคตรวุ่นวาย นั้นอาจจะเพราะตอนต้นเดือนก่อนสงกรานต์มี cluster covid ทองหล่อ
ซึ่งสาเหตุก็มาจากคนมีสีไปใช้บริการ แล้วไม่เปิดเผย timeline ยิ่งทำให้ไปกันใหญ่

และการนำเข้าวัคซีนล่าช้า ทำให้ไม่สามารถควบคุม covid ได้ ซ้ำร้ายยังออกกฎหมายบ้าๆ อย่างใส่แมสขับรถ ห้ามนั่งที่ร้าน ปิดทุกอย่าง lock down ทุกอย่าง

ผมได้ฟัง club house เกี่ยวกับผู้ได้รับผลกระทบการ lock down ครั้งนี้ ผมรู้สึกสงสารบางอาชีพมาก อย่างร้านนวด ที่มีข้อจำกัดไม่สามารถปรับตัวทำแบบ delivery ได้ เจ้าของเล่าพร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นเครือ “หนูเห็นพนักงานนั่งร้องไห้ เค้าถามหนูว่า พี่หนูควรทำไงดี” มันเป็นประโยคสั่นๆ ที่ทรงพลังกว่ารัฐมนตรีบางท่านที่ให้สัมภาณ์เป็นชั่วโมง

ผมสงสารคนเหล่านั้นจับใจ…

จนช่วงปลายเมษายน มีกลุ่ม “ย้ายประเทศกันเถอะ” เกิดขึ้นมา หลายคนคงทนไม่ไหวกับการบริหารของรัฐบาลชุดนี้จริงๆ

เรื่องงาน

เรื่องงานผมก็ทำเต็มที่เหมือนเดิม แต่งานมันไม่หนักเหมือนแต่ก่อน ทำให้ผมโทรไปคุยกับหัวหน้าว่า “ผมรู้สึกผมทำงานไม่คุ้มค่าจ้างครับ หัวหน้าจะเลือกจ้างผมบางวันก็ได้นะครับ” ซึ่งผมว่ามันก็บ้าแหละ ที่อยู่ดีๆไปบอกแบบนั้น มันหาเรื่องให้ตัวเองตกงานชัดๆ 555

แต่มันคือความสบายใจของผม ผมไม่อยากเอาเปรียบบริษัท เพราะบริษัทก็จ้างผมในราคาที่สูง และทีมงานก็ให้เกียรติและดีกับผม
โดยรวมคือ ปิดงานได้ใน sprint แต่ส่วนที่ปิดไม่ได้นั้นเกิดจาก spec ซะส่วนใหญ่ ก็ตีกลับไปให้คิดมาใหม่ ให้ 7/10 ละกัน

เรื่องออกกำลังกาย

จากเดือนที่แล้วซื้อ course มวย แต่พอเล่นได้แปบๆก็โดน lock down เลยต้องมาซ้อมฝึกเอง (เห็นใจเทรนเนอร์มาก เพราะรายได้ส่วนใหญ่มาจาก course)

พอ lock down อะไรก็ปิด ส่วนกลางคอนโดยังปิด แต่นั้นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผม เพราะผมออกกำลังกายได้ทุกที่ 5555
แรกๆก็หายใจไม่ค่อยทัน เพราะใส่แมสออกกำลังกาย แต่พอทำซ้ำๆ มันก็ปรับตัวได้เอง

ใส่แมสโดดเชือก 555

สรุปให้ 10/10 เพราะขนาดมีวิกฤติยังทำได้ต่อเนื่อง ไม่มีข้อแม้ ไม่มีโอดครวญ

เรื่องภาษาจีน

ผมจริงจังกว่าเดิม แบบสุดๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับ #ย้ายประเทศกันเถอะ เลย เพราะผมคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว… 30ปีที่ผ่านมามันมากเกินไป ผมเสียเวลาไปเยอะแล้ว ซึ่งผมเคยอิดออดสมัยเรียน มัวแต่ลังเล ไม่มั่นใจการตัดสินใจของตัวเอง ดังนั้นตอนนี้ผมจะไม่ปล่อยเวลาไหลไปอีกแล้ว ผมจะทำตามความเชื่อของตัวเอง และสนุกกับการใช้ชีวิต

เดือนนี้ผมทำ HSK2 จบและขึ้น HSK3 ก็ถ้าดูตามแผนแล้วววว ผมทำไวกว่าแผนที่ตั้งใจไว้ ถือว่าดีมากที่ยังรักษาเป้าหมายและกำลังใจได้ ผมภูมิใจในตัวเองครับ

จงภูมิใจในตัวเอง จากเด็กเงียบๆ กลายเป็นคนที่พูดภาษาที่สามได้

ผมคัดจีนทุกวัน เพื่อให้มีพื้นฐานคำให้ได้มากที่สุด และผมแก้ปัญหาการฟังพูด ด้วย club house
ช่วงแรกๆก็เขินอาย แต่ก็นะ ไม่มีไรจะเสีย หรือไม่ก็เสี่ยงก็ไม่ได้ เลยพูดๆไป ซึ่งคนคุยเค้าก็พยายามเข้าใจเรา และปรับปรุงสำเนียงเรา
ผมรู้สึกสนุกมาก เพราะการนั่งคัดอย่างเดียว มันทรมานเหมือนกันนะ 555 แต่พอมีเพื่อนคุย บางครั้งเรื่องขำๆ ก็ทำให้เราจำประโยคได้

สรุป ผมให้ 10/10 ขอบคุณตัวเองสำหรับความพยายาม ขอบคุณที่เชื่อในตัวเอง

เรื่องการศึกษา หาความรู้ใหม่ๆ

เรื่องนี้ ยากกกก เวลามันหมดไปกับภาษาจีนแล้ว ถ้ามีอะไรใหม่ก็คงเป็น conversions API แหละ
รู้สึกดีใจมาก ที่บทความเรามีคนหลงเข้ามาอ่าน 555
เดือนเมษายน ผมเลยเขียน conversions API ออกมาอีกหลายอันเลย

แต่ผมไม่ได้อ่านหนังสือเลย ไม่ได้ศึกษาเทคโนโลยี หรือฟัง tech podcast เลย ไม่อยากเอาข้ออ้างเรื่องไม่มีเวลามาใช้
ผมคิดว่าเหตุผลที่ผมไม่ได้ศึกษา ก็เพราะน่าจะถึงจุดอิ่มตัว ผมรู้สึกว่าผมสามารถศึกษาเทคโนโลยีใหม่ได้เร็ว และเทคโนโลยีบางอย่าง ก็มาไวไปไวกว่า dog coin เสียอีก ดังนั้นผมคิดว่า “Let Them Fight” ถ้าจะใช้อันไหนค่อยไป research

สรุป ให้ 7/10 เพราะถึงแม้จะเวลาน้อย แต่ก็ยังมีศึกษาอะไรใหม่ๆบ้าง ที่หักเพราะไม่ยอมอ่านหนังสืออื่นๆบ้าง 555

สรุป

34/40 ผมว่าเยอะมากเลยนะ เดือนนี้เจออะไรสาหัส แต่ยังรักษากำลังใจและปรับตัวได้
อีกทั้งเดือนหน้าผมก็หมด contract กับ BOT แล้วด้วย ทำงานจนถึงวันที่ 14
จริงๆก็เครียดนิดหน่อยที่จะต้องหางานในช่วงวิกฤติ แต่ผมเชื่อตัวผมเองจะต้องรอด ผมมีความหวัง ผมต้องเตรียมตัวให้ได้มากที่สุด

สุดท้ายนี้ ประเทศไทยมันคงเกินเยียวยาแล้วละ “บันทึกไว้ในวันที่พ่อค้ายาเป็นรัฐมนตรีโดยมีศาลรับรอง