ในปีนี้ คงเป็นปีที่ลำบากสำหรับใครหลายๆคน เอาที่เห็นภาพชัดๆก็ pm2.5, covid19, การเมือง แค่นี้ก็รู้สึกคุณภาพชีวิต สุขภาพร่างกาย การเงินลำบากแล้ววว ก็สู้ๆ ปรับตัวกันไป
โดยส่วนตัว ผมรู้สึกโชคดีที่ยังมีงานทำ ไม่ได้มีเรื่องหนักใจ ภาพรวมความเป็นอยู่ดีขึ้นเสียด้วยซ้ำ
สุขภาพ
ปีนี้ออกกำลังกายน้อยลง จากปีที่แล้ว ประมาณ 3+ ชั่วโมงต่อวัน เหลือเป็น ประมาณ 2+ ต่อวัน โดยใช้วิธิ fix เวลาออกกำลังกาย คือ
ออกแบบชีวิตประจำวันใหม่ อยู่ถึงที่ทำงานถึง 19.30 – 20.00 แล้วค่อยมาออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ work สุดละ
เคยปรับแผน ตื่นเช้า ออกกำลังกายเช้า แต่ไม่ work กลายเป็นออกเช้า ออกเย็น จะบ้าตายยย จะแรงเหลือไปไหน
ไม่ได้ทำ IF แล้ว ออกกำลังกายก็น้อยลง แต่หุ่นไม่เปลี่ยน มวลกล้ามเนื้อเพิ่มด้วยซ้ำ อันนี้ก็มิราเคิล ยังไม่เข้าใจร่างกายจริงๆ
งาน
โปรเจคได้ GoLive ดีใจกับทีมงานด้วยจริงๆ พอปรับตัวเข้ากับที่ทำงานได้ อะไรๆก็ดีครับ ราบรื่น ผู้ใหญ่ก็เอ็นดู เพื่อนร่วมงานก็ดี เงินก็ดี ทำให้เห็นเงินเก็บเป็นก้อนจริงๆจังๆสักที พอมีเงินก้อนก็เลยทำให้เราเข้าใจและเห็นภาพความสำคัญของการวางแผนการเงินและประกันมากขึ้น (จริงๆต้องบอกว่ายิ่งเงินน้อย ยิ่งต้องวางแผนแหละ ไม่ใช่เงินเยอะถึงวางแผนได้)
ที่ทำงานน่าจะต่อสัญญาได้ถึงกุมภาพันธ์ ใครมีที่ทำงานน่าสนใจ รบกวนแนะนำหน่อยนะครับ 555
ชีวิต
ปีนี้อ่านหนังสือจบน้อยลง อ่านบทความใหม่ๆก็น้อย เอาไปทุ่มกับภาษาจีนแบบจริงๆจังๆแทน ได้ทำอะไรใหม่ๆเยอะมาก (ลอง list ออกมาก็เยอะจริงแหละ) ส่วนนึงเพราะได้เวลาคืนกลับมาจากการฟิคเวลาออกกกำลังกาย
พอโปรเจคใหม่ๆเยอะ ก็เหนื่อย มีความผิดพลาด แต่ไม่เสียใจ ไม่รู้สึกเสียดายเวลาเลย รู้สึกว่านี่สิ มาถูกทางแล้ว!
นอกจากนี้ได้ลองใช้ชีวิต slow life และพบว่านี่แหละชีวิตหลังเกษียณ รู้แล้วว่าจะเก็บเงินไปทำอะไร มีแผนในหัวชัดขึ้นเรื่อยๆ
ความรัก และครอบครัว
ความรักเป็นเรื่องดี หลังจากที่แนะนำเป้ออกกำลังกายที่ฟิตเนส ก็ดูจะติดใจไปเลย ไม่เห็นไปวิ่งสวนลุมอีกเลย 555 (ไปชอบเต้น zumba ได้ไงก็ไม่รู้)
ชีวิตคู่ในมุมเราก็เรื่อยๆ เนิบๆ ทุกข์สุขมันมีเข้ามาเรื่อยๆแหละ อยู่ที่เราจะรับมือยังไง (เหมือนปีที่แล้วก็พิมพ์แบบนี้แหะ)
ข้อดีของเป้คอยซับพอตงานบ้าน ซับพอตโปรเจค ช่วยเรื่องที่บ้านได้เยอะะะ
ข้อเสียก็ชอบชวนไปกินเที่ยวนู้นนี่นั้นนะแหละ เจ้าแม่วางแผนจริงๆ
ที่แปลกคือ ทำไมยิ่งแก่ยิ่งสวยขึ้น ยิ่งมองก็ยิ่งหลง มิราเคิลอีกแล้ววว
ปีนี้พาแม่ไป sky dive เพราะแก่กว่านี้ก็ไม่รู้จะไหวไหม จะมีอะไรหลังโควิดอีกไหม
ส่วนลดเอยย จังหวะเวลาเอยย ตัดสินใจพาไปเลยดีกว่า อยากทำอะไรก็เอาเลย จะได้ไม่มาเสียดายทีหลัง
เพื่อนมิตรสหาย พี่น้อง
หลอกเพื่อนมาออกกำลังกายได้สำเร็จ ชวนเพื่อนกินข้าวเรื่อยๆ ส่วนตัวผมก็พยายามวางตัวให้ดีขึ้น (เพื่อนมีหลากหลายอายุมาก 555) จะหาเวลาพบทุกคนนะ 🙂
ปลายปี 2019 มีเพื่อนเสียไปด้วยโรคติดเชื้อในกระแสเลือด เลยทำให้เข้าใจความสำคัญของมิตร เวลา และประกันเพื่อคนข้างหลัง
ในที่สุดก็ได้จดทะเบียนบริษัท บริษัททำเกี่ยวกับ digital marketing และ IT เป็นหลัก
มีพี่ในทีมเป็นมือยิง ads เทพมาก (จ้างได้ รับประกันคุณภาพ) งานล้นมือจนกำลังมองหาลูกทีมช่วยยิง ads
ปีนี้จะ
- อย่างแรกเลย จะเอา six pack ให้ได้ อยากรู้ว่าถ้ามีแล้วมันจะรู้สึกยังไง 555
- สอง จะชกมวยไปเรื่อยๆ ตอนนี้ต่อยกับเทรนเนอร์แล้ว ก็ปากแตกทุกครั้ง 555
- เรื่องงาน เริ่มอยากไปทำงานสาย IT ประกันมากขึ้น พอศึกษาประกันมากขึ้น
จึงได้รู้ว่า ตลาดโคตรใหญ่ เป็นอีกโลกนึงที่ขนานกับ bank เลย
ประมาณว่า bank คือเงินสดสภาพคล่อง ประกัน ก็คือเงินฉุกเฉินเงินสำรอง - ภาษาจีนก็จะจริงจังต่อไปแบบเรื่อยๆ ถ้าเปิดประเทศเมื่อไหร่ เราจะไปเรียนต่อ
- มี blog แล้ว จะเขียนเรื่อยๆ แม้ว่า quality จะห่วยก็ตาม 555
- เรื่องบริษัท ปีนี้จะทำโปรดักให้ได้อย่างน้อย 1 ตัว และก็สู้ๆไปด้วยกัน
- เรื่องประกัน ก็จะหาข้อมูลเรื่อยๆ ถ้าสร้างโปรแกรมได้ก็สร้าง ขายประกันได้ก็ขาย พอเข้าใจประกันแล้ว รู้สึกเป็นตัวเลือกที่คุ้มนะ ลดหย่อนภาษีได้ด้วย
(แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ก็เหมือนรัฐผลักการดูแลตัวเองให้ปชช สนับสนุนให้ออมเงินและซื้อประกัน ในขณะที่ปชชก็เสียภาษีด้วยอะนะ เหมือนจ่ายสองทาง ถ้าหวังคุณภาพดีๆ จากการเสียภาษี นั้นแทบไม่มี อยากได้ดีๆ ต้องจ่ายตังเอง) - ความรัก รออ่านปีต่อไป 555
เพราะศูนย์เสียถึงได้เรียนรู้ เพราะศูนย์เสียถึงได้เติบโต แต่ถ้าเลือกได้ เราไม่อยากจะศูนย์เสียอะไรเลย
ลอง list รายการที่ทำ
ปีนี้เริ่ม หรือสานต่อโปรเจคจากปีก่อนๆเยอะ
- ปรับปรุงห้องน้ำที่บ้านซะที
- มี blog, page ของตัวเอง แต่ก่อนเคยคิด ทำ แต่ไม่สำเร็จ เพราะยึดติดกับเรื่องคุณภาพเกินไป เลยใช้วิธีบังคับตัวเอง เขียนวันละ post เขียนทุกเรื่อง สรุป work
- ทำโปรเจค OCR และ tools ส่วนตัว
- โดดร่ม ให้แม่และแฟนโดดด้วย 555
- พาแม่ไปเที่ยว
- ลงวิ่ง 13.4km แต่ติดโควิด เลยกลายเป็น virtual run
- พัฒนาจากการออกกำลังกาย เป็นฝึกมวย
- พัฒนาจากการออกกำลังกาย เป็น trainer แต่สุดท้ายไม่ work เพราะไม่มีเวลา เวลาไม่ตรงกับเพื่อนเลย และยังขาดความรู้เรื่อง anatomy muscle อีกเยอะเลย
- ปีนี้จดบริษัทเป็นรูปเป็นร่าง
- วาง network ในบ้าน ตึกแถวสามชั้นใช้เนตได้หมด สบายใจ
- จะเขียนโปรแกรมประกัน แต่ดันไปสอบตัวแทนประกัน
- ปีนี้สร้าง fanpage ประกัน ลองยิง ads พบว่า work วะ!!!
- ฝึกอ่านแล้วล้าง mail inbox ทุกวัน
- ลองส่งรูปลง shutterstock แต่ไม่ผ่าน
พอมีเวลามากขึ้นก็ทำโปรเจคได้มากขึ้น สำเร็จบ้างเฟลบ้าง แต่ในที่สุดก็มี blog จริงๆจังๆสักที content ไม่ได้ดี แต่ก็ลงเรื่อย เป็นเรื่องปกติ เป็นปีที่อ่านหนังสือจบน้อย แต่ได้เริ่มทำอะไรใหม่ๆหลายๆอย่างแทน
จากข้อบน เพราะช่วงหลังๆเอาเวลาไปทุ่มกับภาษาจีนหมด ใช้กฎเดียวกับการอ่านหนังสือ คือ ทยอยอ่าน ทยอยทำ (แอป TOFU Learn ตอบโจทย์มากครับ)
แต่ให้ตายเถอะ ผมทำ dictation ได้ streak 7 วัน 10 วัน 20 วัน แล้วบางวันลืม แมร่งต้องมาเริ่มใหม่ เป็นแบบนี้หลายรอบมาก วนลูปจนท้อ
ปีนี้ได้ลองสร้าง fanpage ยิง ads และเป็น TA ช่วยสอนยิง ads เลยทำให้รู้ว่าตลาดประกันมีช่องทางทำมาหากิน สร้างโปรแกรมไปขายได้
พอศึกษาประกันมากขึ้น จึงได้รู้ว่า ตลาดโคตรใหญ่ เป็นอีกโลกนึงที่ขนานกับ bank เลย
ประมาณว่า bank คือเงินสดสภาพคล่อง ประกัน ก็คือเงินฉุกเฉินเงินสำรอง
ไม่รู้ศึกษาอีท่าไหน ทำไมไปสอบตัวแทนประกันชีวิตได้ 555
